__ผลไม้ลดความอ้วน *0* __
ผลไม้รสเปรี้ยวใครที่กำลังควบคุมน้ำหนัก แต่ปฎิเสธการไปงานเลี้ยงอาหารค่ำที่ไม่มีอาหารไขมันต่ำอยู่ในเมนูไม่ได้ ลองสั่งน้ำมะนาวคั้นสดมาจิบหรือส้มสดฝานแล้วสัก 4-5 ชิ้น มากินเสริมบ้าง เพราะกรดธรรมชาติจากผลไม้เหล่านี้จะช่วยย่อยไขมันและช่วยให้ร่างกายย่อยอาหารดีขึ้น 
แหล่งที่มาของภาพ :: http://gotoknow.org/file/p0okpui/358536213657362336181.jpg
กล้วย ผลไม้เบสิกๆ แบบนี้ ใครๆ ก็รู้ว่ามีประโยชน์มากมาย แต่เชื่อหรือไม่ว่า กล้วยสามารถช่วยล้างลำไส้ได้เป็นอย่างดี เพราะอุดมไปด้วยธาตุโปแตสเซียมและวิตามินซี และยังให้พลังงานสูง ดังนั้นควรกินกล้วยให้ได้วันละ 1 ลูกเป็นประจำทุกวัน

แหล่งที่มาของภาพ :: http://www.rebelhome.net/apples2.jpg
แอปเปิ้ล เป็นผลไม้ที่ดีที่สุดสำหรับการขจัดของเสียออกจากร่างกาย สารเพกตินในแอปเปิ้ลจะช่วยนำสารพิษไปกำจัดทิ้ง ทั้งยังป้องกันไม่ให้โปรตีนในลำไส้เกิดการบูดเน่า แอปเปิ้ลยังมีเส้นใยมาก ซึ่งมันจะทำหน้าที่เป็นไม้กวาด ทำความสะอาดลำไส้ช่วยให้ตับและระบบย่อยทำงานได้ดียิ่งขึ้น กระตุ้นน้ำย่อย นอกจากนี้ยังมีวิตามินและเกลือแร่ แต่อย่าปอกเปลือกเชียวนะ

แหล่งที่มาของภาพ :: http://img.kapook.com/image/01_421.jpg
สับปะรด มีเอนไซม์โปรตีนสูง เอนไซม์ตัวนี้จะช่วยการทำงานของกรดไฮโดรคลอริกในกระเพาะ และช่วยทำให้ของเสียที่เป็นโปรตีนแตกตัวได้เร็วขึ้น เชื่อกันว่าสับปะรดช่วยรักษาอาการอักเสบในทางเดินอาหาร ช่วยในการซ่อมแซมส่วนต่างๆ ที่สึกหรอช่วยการทำงานของต่อมไร้ท่อ และช่วยกำจัดน้ำมูก

แหล่งที่มาของภาพ :: http://www.geocities.com/mey_noiz/watermelon.jpg
แตงโม มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ดังนั้นจึงช่วยฟอกล้างร่างกายได้เป็นอย่างดี ใช้รักษาแผลในกระเพาะ ลดความดันเลือดสูง ทำให้สบายท้อง น้ำคั้นจากเปลือกของแตงโมและเมล็ด หากดื่มก่อนกินเนื้อแตงโมในมื้ออาหารสักครึ่งชั่วโมงจะทำให้คุณได้ประโยชน์สุงสุด เนื่องจากเปลือกของมันอุดมด้วยคลอโรฟิลล์ และเมล็ดอุดมด้วยวิตามิน น้ำแครนเบรอรี่คั้น สำหรับผู้ที่มีอาการติดเชื้อที่ท่อปัสสาวะง่าย แนะน้ำให้ดื่มน้ำแครนเบอรี่คั้น 1 แก้วทุกวัน เพราะสารพฤกษ-เคมีที่อยู่ในผลไม้ชนิดนี้จะช่วยป้องกันอาการติดเชื้อที่ไม่พึงปรารถนาต่างๆ ได้ คุณอาจจะผสมน้ำแครนเบอรี่คั้นกับเครื่องดื่มแก้วโปรดเพื่อให้ได้ค็อกเทลแสนอร่อย หรือเป็นเครื่องดื่มเรียกน้ำย่อยก่อนอาหารก็ได้
แหล่งที่มาของภาพ :: http://www.skinbiotechthai.com/images/sub_1234262707/fruit02.jpg , https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh5bWijNgyXulKNA6MghDJYS2DOFdgv_Cmr2uLdroe69IubNU337XHk6b3Qps0NJb5b5gDfI6GU356MVFpZ_-eoer60Ok9ACw9GsG_knE1ULGqT7pJiI1lDxwCpQkNpMd4SOwusuolQxwKF/s320/%EF%BF%BD%25
มะละกอ / มะม่วง มีลักษณะคล้ายคลึงกัน แต่มะม่วงมีสารสำคัญน้อยกว่ามะละกอเล็กน้อย ผลไม้ทั้งสองชนิดมีเอนไซม์ชื่อ ปาเปนซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับน้ำย่อยเปปซินในกระเพาะอาหาร ดังนั้นมันจึงช่วยทำให้ของเสียที่เป็นโปรตีนแตกตัว ได้เร็วขึ้นเช่นเดียวกับโปรเมลิน ทั้งมะละกอและมะม่วงดีสำหรับทำความสะอาดและช่วยย่อยอาหาร เชื่อกันว่ายังช่วยลดอาการ ซึมเศร้าได้อีกด้วย

แหล่งที่มาของภาพ :: http://www.holidayparkkhaoyai.com/images/1183691180/grapesuay.jpg

แหล่งที่มาของภาพ :: http://www.rakbankerd.com/kaset/Plant/893_1.jpg


แหล่งที่มาของภาพ :: http://203.172.220.170/stu_proj/513053/10.jpg
เงาะ เป็นผลไม้รสหวาน เปรี้ยว ฤทธิ์อุ่น ไม่มีพิษ รับประทานเงาะสดสามารถแก้อาการท้องร่วงชนิดรุนแรงได้ผลดี เปลือกผล เงาะนำมาต้มกินน้ำเป็นยาแก้อักเสบ มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย รักษาอาการอักเสบในช่องปาก และโรคบิดท้องร่วง ข้อควรระวังอย่างหนึ่ง คือเม็ดในของเงาะ มีพิษ แม้ว่าจะเอาไปคั่วจนสุกแล้ว แต่ถ้ากินมากเกินไปจะมีอาการปวดท้อง เวียนศรีษะ มีไข้คลื่นไส้ อาเจียน ดังนั้นเม็ดเงาะจึงไม่ควรรับประทาน

แหล่งที่มาของภาพ :: http://www.tourthai.com/gallery/images025/cmi-003.JPG
ชอบกินลำไยครับ บ้านใครเป็นสวนเอามาฝากด้วยเน้อ
ตอบลบน่ากินทั้งนั้นเลย !!
ตอบลบ